short topics from Steve Jobs book

ทุกคนต่างไม่ผิด แต่ความคิดเราต่างกัน .. แล้วผมรู้สึกว่า Steve jobs เป็น hero
ทุกคนต่างไม่ผิด แต่ความคิดเราต่างกัน .. แล้วผมรู้สึกว่า Steve jobs เป็น hero

5 พ.ค.55 อ่านหนังสือ Steve jobs by Walter Isaacson บางหน้า แล้วได้บทเรียนของชีวิต อ่านไปก็เขียนไปว่าหน้าไหนน่าสนใจ พออ่านจบก็มาลงบล็อก .. เพื่อ บันทึกไว้ว่าผมชอบ (Favor) หน้าไหน และมีประเด็นอะไรบ้าง

Pages

p.11 Moore’s law กฎนี้ได้รับการยืนยันในปี 1971 เป็นกราฟแสดงความเร็วในการเติบโตของวงจรรวม (Integrated Circuit : IC) เป็นทฤษฎีที่กอร์ดอนมัวร์ค้นพบในปี 1965 ที่แสดงอัตราการเติบโตแบบทวีคูณของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

p.16 Jobs ประกาศว่าเขาไม่บูชาศาสนาตามพ่อแม่ แต่หันมาสนใจศาสนาพุทธจนกระทั่งเสียชีวิต

p.25 ENIAC (Electronic Numerical Integrator and Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ดิจิทอลอิเล็กทรอนิกส์อเนกประสงค์เครื่องแรกของโลก พัฒนาโดยกองทัพบกสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อใช้คำนวณวิธีการโจมตีของอาวุธแบบต่าง ๆ เป็นต้น

p.27 วอซคิดสร้างโปรแกรมคำนวณเลขฟีโบนัชชี (bonacci number) ที่ต้องใช้เวลาคอมพิวเตอร์ยาวนานมากจนมหาวิทยาลัยขู่ว่าจะเรียกเก็บเงินค่าเวลาคอมพิวเตอร์จากเขา

p.36 ในอดีต ทิโมธี่ เลียรี่ เผยแพร่แนวคิดของ League (สหพันธ์) for Spiritual Discovery = LSD องค์กรทางศาสนา เพื่อรณรงค์ให้การใช้ LSD อย่างถูกต้องเป็นเรื่องถูกกฎหมาย

p.37 อยากเป็นเหมือนเด็กกำพร้าที่ร่อนเร่

p.39 Diet for a small planet .. พฤติกรรมการกินที่ประหลาด

p.44 มหาวิทยาลัยบังคับอ่าน มหากาพย์อีเลียด (iliad) และสงครามเพโลพอนเนเซียน (Peloponnesian War)

p.46 ทิโมธี่ เลียรี่ เป็นผู้เสนอว่า LSD ซึ่งเป็นยาเสพติดที่ออกฤทธิ์กระตุ้นและหลอนประสาท ถ้าใช้ภายใต้การควบคุมอย่างเหมาะสม จะมีประโยชน์ต่อจิตวิญญาณ  (1920 – 1996) (สมัยนี้ผิดกฎหมายแล้ว)

p.49 มีพฤติกรรมยโสโอหัง .. มักด่าเพื่อนร่วมงาน ว่า “โง่เหมือนควาย

p.60 วอซเนียกถูกสตีฟโกงเงิน .. “ผมคิดว่าตอนนั้นสตีฟคงต้องการเงิน เลยไม่บอกความจริงกับผม”

p.74 สินค้าล็อตสำคัญคือขายให้ the byte shop โดยเดินเท้าเปล่าเข้าไปขายสินค้า

p.88 มาร์คคูล่า เขียนหลักปรัชญาการทำงานด้านการตลาด The Apple Marketing Philosophy 1) เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น (empathy) 2) จับเฉพาะจุดหมายสำคัญ (focus) และ 3) สร้างภาพ (impute) (สำหรับคำว่า impute มีความหมายอีกแบบคือใส่ร้าย ซึ่งไม่ใช่ความหมายของ มาร์คคูล่า)

p.90 เลโอนาโด ดาวินซี่ เคยกล่าวไว้ว่า “ความเรียบง่ายคือสุดยอดของศาสตร์ (Simplicity is the ultimate sophistication)”

p.97 เธออยู่กินกับเกร็ก แต่บางทีก็กลับมาหาสตีฟ พวกเราส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้ กลับไปกลับมา ยุค 70 ก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้น

p.101 จ็อบแพ้คดี .. ศาลแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียสั่งให้จ็อบส์จ่ายค่าเลี้ยงดูลูกเดือนละ 385 เหรียญ

p.104 คอมพิวเตอร์ Lisa เป็นชื่อลูกของสตีฟ แต่ทีมบอกว่าย่อมาจาก Local Integrated Systems Architecture แล้ววิศวกรเรียกว่า Lisa Invented Stupid Acronym

p.106 อลัน เคย์ มีหลัก 2 อย่างที่สตีฟชอบ 1) วิธีที่ดีที่สุดในการคาดการณ์อนาคต คือ สร้างอนาคตนั้นขึ้นมาเอง “The best way to predict the future is to invent it.” และคนที่จริงจังกับเรื่องซอฟท์แวร์ควรสร้างฮาร์ดแวร์ขึ้นมาเอง “People who are serious about software should make their own hardware”

p.107 ส่วนประสานงานผู้ใช้แบบกราฟฟิก (graphical user interface : GUI กูอี้) ใช้หลักการสร้างภาพแบบบิตแมปปิ้ง และส่วนประสานงานผู้ใช้แบบกราฟฟิก กลายเป็นคุณลักษณะของคอมพิวเตอร์ต้นแบบของ Xerox PARC .. การร่วมมือครั้งนี้เพราะ Jobs ยอมให้ Xerox เข้าลงทุนใน Apple 1 ล้านเหรียญ

p.109 จ็อบส์เล่าความรู้สึก
ในครั้งที่เขาฟัง เทสเลอร์ที่ Xerox Parc สาธิตคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของ smalltalk 3 ข้อ
1) คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายได้อย่างไร
2) โปรแกรมเชิงอ็อบเจ็กต์
3) ส่วนประสานงานผู้ใช้แบบกราฟิก และภาพบิตแมปที่ปรากฎบนจอ
แนวคิดที่จ็อบส์ได้ดูงานที่ Xerox Parc นี้เขาต้องจ่ายครับ
เป็นการเปิดโลกทัศน์เหมือนการเข้าไปล้วงความลับจากคู่แข่ง

http://en.wikipedia.org/wiki/Smalltalk

p.116 แอนดี้ เฮิร์ตซเฟลด์ ให้ความเห็นเรื่องที่สตีฟ ไม่ให้ stock option กับแดเนียล ค็อตเคว่า “สตีฟเป็นอะไรที่อยู่ตรงข้ามกับความภักดี เขาเป็นพวกไม่เคยภักดีกับใคร เขาทิ้งคนที่อยู่ใกล้ชิดเขา” คงเป็นคุณลักษณะหนึ่งของผู้บริหารอย่างสตีฟ จ็อบส์ แม้ร็อด โฮลท์ เข้าไปเจรจาแล้วบอกว่าคุณให้เพื่อนรักคุณเท่าไร ผมก็จะให้เท่านั้น แต่คำตอบคือ “ผมให้เขาศูนย์หุ้น” ต่อมา สตีฟ วอซเนียก (Steve Wozniak) แบ่งหุ้นให้ค็อตเค และเพื่อนร่วมบริษัทอีกหลายคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ต่อมามี poster ของ United Way แล้วมีคนไปเขียนข้อความต่อท้ายล้อเรียน วอซเนียกว่าจะหมดตัวในปี 1990 .. ผมว่าวอซเนียก ต่างกับสตีฟครับ เป็นคุณลักษณะของผู้บริหารที่แตกต่างกัน

http://sjobs.900913.net/index1_split_034.html

p.124

p.134

p.136

p.137

p.140

p.155

p.161 ผมว่าเขาคือ กบฏขององค์กร (บทที่ 13 เริ่มหน้า 154)
jobs เห็นว่าในบริษัทที่เขาทำงานอยู่ มีผลิตภัณฑ์ชื่อ lisa แต่ถ้ายอดขายของ lisa สูง นั่นหลายถึงผลิตภัณฑ์ที่เขาดูแล คือ macintosh จะแพ้ .. การทำให้งานที่ตนไม่ได้ดูแลล้มเหลวจะเสริมให้งานที่ตนดูแลสำเร็จ จึงเป็นความจงใจในครั้งที่เขาได้รับหน้าที่แถลงข่าวเรื่องผลิตภัณฑ์ใหม่ จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ตัวนั่น ล้มเหลวในการทำการตลาดในที่สุด แต่บางทีเขาอาจไม่รู้ก็ได้ว่าการให้ข่าวแบบนั้นจะเป็นผลลบต่อผลิตภัณฑ์
ดังนั้น steve jobs ในฐานะประธานกรรมการบริษัททำหน้าที่แถลงข่าว โดยแผนประชาสัมพันธ์กำหนดให้พูดเรื่อง lisa computer ไม่ต้องเอ่ยถึงเครื่อง macintosh ที่ยังพัฒนาไม่เสร็จ แต่หลังให้สัมภาษณ์ ปรากฎว่า
นิตยสาร fortune รายงานว่า “ปลายปีนี้ Apple จะวางตลาดคอมพิวเตอร์อีกรุ่นหนึ่ง ที่มีสมรรถนะน้อยกว่า ราคาถูกกว่า Lisa
นิตยสาร Business week รายงานว่า “ถ้า Mac วางตลาด รับรองว่ามันจะเป็นคอมพิวเตอร์ที่เหลือเชื่อที่สุดในโลก
สรุปว่า .. การเปิดตัว lisa คราวนั้นเหมือนเปิดประตูสู่นรกเลยจริง ๆ

lisa2
lisa2

ว่าง ๆ จะมาให้รายละเอียดเพิ่มเติม

p.173

p.175

p.177

p.185

p.242

p.205 จ๊อบส์บอกเกตส์ว่า “คุณโกงเรา
แต่เกตส์ตอบว่า “สตีฟ ผมว่ามันมีวิธีมองเรื่องนี้ได้หลายแบบนะ
เราทั้งคู่ต่างมีเพื่อนบ้านร่ำรวยชื่อ xerox
ผมงัดเข้าไปในบ้านหวังจะขโมยทีวี แต่กลับพบว่าคุณขโมยมันไปก่อนแล้ว

From folklore.org by Andy Hertzfeld
Well, Steve, I think there’s more than one way of looking at it. I think it’s more like we both had this rich neighbor named Xerox and I broke into his house to steal the TV set and found out that you had already stolen it.

http://www.folklore.org/StoryView.py?story=A_Rich_Neighbor_Named_Xerox.txt

p.214

p.243

p.334

p.339

p.340

p.378

p.418

p.577

p.620

p.622

p.661

p.667

รู้สึกว่า Steve jobs เป็น hero

http://www.comicmix.com/news/2008/01/17/justice-league-film-delayed-due-to-script-issues/