จดหมายจากสามีถึงภรรยา
ตอน ลดอาหารกลางวัน
ปรับปรุง : 2553-11-12 ()
ตั้งแต่ยายของหลานจากไปด้วยมะเร็ง ปลายปี 2550 ทำให้นึกถึงการจากไปของผู้มีพระคุณหลายท่าน ได้แก่ พ่อสอาดด้วยมะเร็ง ย่าเป็งด้วยโรคชรา แต่การไว้ทุกข์ได้หายไปหลายปีแล้ว ทำให้รู้สึกว่าตนเองเป็นคนอกตัญญูมาหลายปี ทั้งที่ควรรู้สึกเสียใจไปชั่วชีวิต การไว้ทุกข์ให้กับผู้มีพระคุณที่จากไปรวมถึงตาแสนที่พึ่งจากไปปลายปี 2551 ด้วยอุบัติเหตุ ทำให้ผมตัดสินใจไว้ทุกข์ชั่วชีวิต เพราะไม่เห็นความจำเป็นต้องปล่อยให้จิต คล้อยไปตามปัจจัยปรุงแต่งภายนอก ประกอบกับผมก็ไม่เคยเห็นความสำคัญของแสงสีมาแต่ไหนแต่ไร จึงพยายามลดความวุ่นวายในจิตเรื่องสีด้วยการทำให้ตู้เสื้อผ้ามีแต่สีดำ .. ผมว่าวิธีนี้ช่วยลดความวุ่นวายในจิตได้เรื่องหนึ่ง .. ที่ไม่เลือกขาว เพราะไม่อยากวุ่นวายเรื่องความสะอาด .. เป็นเรื่องที่มนุษย์เริ่มให้ความสำคัญมาได้ไม่กี่สิบปีนี้เอง
การลดอาหารกลางวัน ทำให้ลดเงื่อนไขของชีวิตที่ต้องเบียดเบียนสรรพสัตว์ลงได้ 1 ใน 3 ของชีวิต และลดโอกาสรับสารปนเปื้อนที่มีพิษเข้าสู่ร่างกายได้ลง 1 ใน 3 และลดน้ำหนักส่วนเกินที่อาจเป็นเหตุให้เกิดโรคภัยเหมือนที่ใครหลายคนบ่นว่า อายุมากขึ้น น้ำหนักก็เพิ่มขึ้น โรคก็ตามมา .. มนุษย์จำนวนมากทานอาหาร 2 มื้อ คือ มื้อกลางวัน และมื้อเย็น มีมนุษย์อีกจำนวนไม่น้อยบ่นว่าทานข้าวเช้าแล้วเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ทานข้าวเที่ยงอีกแล้ว แม้จะรู้ว่ายังไม่ถึงเวลาแต่ก็ต้องทำไปตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ไม่รู้ใครกำหนด .. พระสงฆ์ทานมื้อเดียวก็ยังอยู่ดีมีสุขกันทั้งประเทศ .. ผมก็เพียงอธิบายให้ฟังว่าอยากทำสิ่งที่สมเหตุสมผล และก็ทำมาแล้ว 2 ปี .. สิ่งที่เห็นชัดคืออาการภูมิแพ้ลดลง ไขมันส่วนเกินหายไป
ฉบับนี้เท่านี้ก่อนนะ
จาก สามี 2553-11-12